ข่าว

บพข. มุ่งผลักดันอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียมของไทย

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ณ ห้องประชุมบอลลูม 1 โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ บพข. ได้จัดเวที ” Expert Forum เรื่องการพัฒนางานวิจัยและอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม ” นำโดย รศ.ดร.วาณี ชนเห็นชอบ ประธานอนุกรรมการแผนงานกลุ่มอาหารมูลค่าสูง และ รศ.ดร.ณัฐดนัย หาญการสุจริต หัวหน้าสำนักประสานแผนงานกลุ่มอาหารมูลค่าสูง เป็นผู้ดำเนินการจัดงาน โดยมีจุดประสงค์ในการพัฒนางานวิจัยเพื่อผลักดันให้เกิดการผลิตอาหารและส่วนประกอบอาหารสัตว์มูลค่าสูงของไทย

นโยบายการขับเคลื่อนของแผนงานกลุ่มอาหารมูลค่าสูง บพข. มุ่งเน้นการสนับสนุนทุนในการวิจัยเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมกลุ่มอาหารและส่วนประกอบอาหารมูลค่าสูงของประเทศ อาทิ ผลิตภัณฑ์ไบโอเทคโนโลยี สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ สารออกฤทธิ์ที่สกัดจากพืช ผลิตภัณฑ์โปรตีนจากแมลง ผลิตภัณฑ์อาหารเชิงหน้าที่ อาหารเป็นยา อาหารท้องถิ่นที่พิสูจน์ว่ามีคุณค่าทางสุขภาพ และกลุ่มอาหารสัตว์พรีเมียม ซึ่งมีมูลค่าทางการตลาดสูงมากในปัจจุบัน

ตลาดส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยในปี 2565 ซึ่งมีมูลค่าสูงเฉียดแสนล้านบาท นับเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจแก่นักลงทุนและผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้คาดการณ์มูลค่าการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยในปี 2565 ที่ 2.4 พันล้านดอลลลาร์สหรัฐ หรือประมาณกว่า 8 หมื่นล้านบาท จากตัวเลขส่งออก ปี 2564 (ม.ค. – ต.ค.) มีมูลค่าประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท โดยมีตลาดสำคัญอยู่ที่ สหรัฐอเมริกา 29.3 % ตลาดอาเซียน 16.9% สหภาพยุโรป 15.5% โดยมองว่าการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มมากขึ้นสืบเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด -19 ที่ผ่านมา ที่ผู้คนหันมามีพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์แบบใส่ใจดูแลเสมือนสมาชิกในครอบครัว

บพข. ซึ่งให้การสนับสนุนการวิจัยด้านอาหารมูลค่าสูงของประเทศ ได้เล็งเห็นถึงโอกาสของไทยซึ่งมีจุดเด่นด้านความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติ การพัฒนาเทคโนโลยีและการสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต เจ้าของเทคโนโลยีและเป็นผู้นำการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ

มุมมองสัตวแพทย์เพื่อการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม

รศ.น.สพ.ดร.ณัฐสิทธิ์ ตันสกุล ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้บรรยายเกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงในมุมมองสัตวแพทย์ว่า อาหารสัตว์เลี้ยงทั่วไปจะแบ่งประเภทเป็น อาหารสัตว์สารอาหารครบถ้วน อาหารสัตว์ประเภทขบเคี้ยว และอาหารสัตว์ที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ ที่ต้องออกใบสั่งยาโดยสัตวแพทย์ หรือหากจะแบ่งในทางการตลาดหรือตามกระแสนััน สามารถแบ่งประเภทได้เป็น อาหารสำหรับผู้เลี้ยงดูสัตว์แบบสมาชิกในครอบครัว อาหารสุขภาพสัตว์แบบองค์รวม อาหารสัตว์ออกานิค อาหารสัตว์เชิงหน้าที่ และอาหารสัตว์มูลค่าสูง

สัตวแพทย์วิเคราะห์สุขภาพสัตว์ทางกายภาพเบื้องต้นในหลายส่วน อาทิ การลงน้ำหนักเท้า ผิวหนังและขน หูและช่องปาก สุขภาพปอดและหัวใจ ระบบปัสสาวะจากการตรวจปัสสาวะ หรือระบบกระดูกและข้อ หรืออาจแบ่งโดยการใช้พลังงานของสัตว์ก็ได้เช่นกัน อาทิ ความต้องการพลังงาน ตามช่วงวัย ความต้องการพลังงานของสัตว์ระยะสืบพันธุ์ หรือกำลังตั้งครรภ์ หรือการดูแลความต้องการพลังงานของสัตว์ป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพ เป็นต้น

หากจะแบ่งอาหารสัตว์พรีเมียมตามการวิเคราะห์ของสัตวแพทย์ เราสามารถแบ่งได้ตามคุณประโยชน์ของอาหารต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงได้ ได้แก่

  • การเพิ่มกรดไขมันเพื่อบำรุงสมอง โดยเฉพาะสัตว์เล็ก เช่น DHA
  • การเพิ่มเอนไซม์สำหรับบำรุงสุขาภาพฟันและป้องกันหินปูน
  • การเพิ่มสารช่วยในการย่อย และเพิ่มความสมดุลย์ในระบบย่อยอาหาร
  • การเพิ่มเอสเซ็นเชียลออยล์ หรือวิตามินบำรุงขนและผิวหนัง
  • การเพิ่มสารอาหารเพื่อบำรุงไตและระบบปัสสาวะเพื่อลดปัจจัยการเกิดนิ่ว
  • การเพิ่มสารกลูโคซามีน หรือโอเมก้า-3 เพื่อบำรุงกระดูกและข้อ

การหาความผิดปกติของสัตว์เลี้ยงในการตรวจทาง Clinical ได้แก่การตรวจความสมบูรณ์ของเลือดเพื่อตรวจสอบการทำงานของอวัยวะภายใน และการดูระดับภูมิคุ้มกันเบื้องต้น การตรวจปัสสาวะเพื่อตรวจความถ่วงจำเพาะ ดูค่า PH และวัดระดับโปรตีน นอกจากนี้ยังมีการตรวจหาพยาธิ ดูการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย การดูระบบการเผาผลาญอาหาร ระบบต่อมไร้ท่อ และการตรวจหาโรคเฉพาะทางอื่นๆ อาจเป็นข้อมูลความรู้ในการดีไซน์การผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงได้อีกทางหนึ่ง

ความปลอดภัยในอาหารในมุมมองของสัตวแพทย์

สัตวแพทย์จะประเมินความเสี่ยงในอาหารสัตว์หากเกิดปัญหาในสัตว์เลี้ยงได้ โดยสามารถวินิจฉัยจากค่าความถ่วงจำเพาะในปัสสาวะ การตรวจหาสารพิษ เช่น ปรอท ตะกั่ว แคทเมียม และสารหนู การตรวจหาเชื้อรา หรือยาฆ่าแมลง เป็นต้น หรือการประเมินการแพ้อาหารสัตว์ ซึ่งเป็นอาการเฉพาะของสัตว์แต่ละตัว เช่น อาการหูอักเสบ ขนร่วง หรืออาการเบื่ออาหาร ท้องเสียอาเจียน ดังนั้น ความปลอดภัยในอาหาร การทดสอบการแพ้ของสัตว์ เป็นสิ่งที่ผู้ผลิตต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์พรีเมียมมูลค่าสูง

จากงานวิจัยในปัจจุบัน สัตวแพทย์ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องแหล่งคาร์โบไฮเดรตเป็นอย่างมาก เนื่องจากแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ต่างกันอาจมีผลทำให้ปริมาณทอรีนที่สัตว์ควรได้รับแตกต่างกัน หากสัตว์ขาดทอรีนจะมีผลต่อความสมบูรณ์ของกล้ามเนื้อหัวใจของสัตว์ได้ เช่นเดียวกันกับการใช้โปรตีนต่างชนิดกัน จะมีผลต่อสารอาหารที่สัตว์จะได้รับแตกต่างกัน

อ่านรายละเอียด จับตาอุตสาหกรรมอาหารสัตว์พรีเมียมไทย

Leave a reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *